ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า หน้าจอ LED แบบพิกเซลละเอียด (Small-pitch LED) มีหลายขนาดพิกเซล เช่น P2.5, P2.083, P1.923, P1.8, P1.667, P1.5, P1.25 เป็นต้น ซึ่งคุณอาจสงสัยว่าขนาดพิกเซลใดดีที่สุด คำตอบคือ ไม่มีขนาดพิกเซลที่ “ดีที่สุด” เพียงหนึ่งเดียว — เพราะคุณควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อเลือกขนาดพิกเซลที่เหมาะสมที่สุดกับโปรเจกต์ของคุณ
(1) พิจารณาระยะการรับชม
อย่างที่กล่าวไว้ว่า ขนาดพิกเซลส่งผลต่อระยะรับชมที่เหมาะสม ดังนั้นควรเลือกระยะห่างระหว่างจุดพิกเซลตามระยะห่างระหว่างผู้ชมกับหน้าจอ โดยมีสูตรที่ใช้คำนวณระยะรับชมในอุตสาหกรรมดังนี้:
- ระยะการรับชมหน้าจอ LED แบบสีเต็ม = ขนาดพิกเซล (มม.) × 500 ~ ขนาดพิกเซล (มม.) × 1000
- ระยะที่มองเห็นภาพจากหน้าจอ = ขนาดพิกเซล (มม.) × 1000
- ระยะการรับชมที่เหมาะสมที่สุด = ขนาดพิกเซล (มม.) × 3000 ~ ขนาดพิกเซล (มม.) × 1000
- ระยะรับชมที่ไกลที่สุด = ความสูงของจอ (เมตร) × 30
(2) พิจารณางบประมาณ
แม้ว่าพิกเซลที่เล็กกว่าจะให้ความละเอียดสูงและภาพที่สวยงามยิ่งขึ้น แต่ราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย เพราะขนาดพิกเซลที่เล็กหมายถึงต้องใช้กระบวนการผลิตที่ละเอียดกว่า และต้องใช้วัสดุเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นตามไปด้วย
หากผู้ชมของคุณนั่งอยู่ไกลจากหน้าจอ การเลือกพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก
(3) ขนาดจอก็สำคัญ
นอกเหนือจากการใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ว หน้าจอ LED แบบพิกเซลละเอียดยังเริ่มเข้ามาในบ้านด้วย ลูกค้าหลายคนเลือกใช้วิดีโอวอลล์แบบ 4K แทนโทรทัศน์ LCD เพื่อให้ได้ภาพที่ใหญ่ขึ้น โดย 4K หมายถึงความละเอียด 3,840 × 2,160 พิกเซล
หากคุณต้องการให้หน้าจอแสดงผลเป็นระดับ 4K จริง ๆ จำนวนโมดูล LED ที่ต้องใช้จะต่างกันไปตามขนาดพิกเซล เช่น โมดูล P1.667 จะมีจำนวนพิกเซลมากกว่า P2.5 ในพื้นที่ขนาดเท่ากัน
(4) พิจารณาข้อกำหนดเฉพาะ
นอกจากความคมชัดที่ตาเปล่ามองเห็นแล้ว คุณยังควรพิจารณาข้อกำหนดเฉพาะสำหรับบางสถานการณ์ เช่น การผลิตภาพยนตร์เสมือน (Virtual Production) หรือการใช้ในสตูดิโอถ่ายทอดสด
หน้าจอที่ใช้ในสถานการณ์เหล่านี้ต้องทำงานได้ดีภายใต้การถ่ายทำด้วยกล้อง และหน้าจอ LED ที่มีพิกเซลเล็กจะช่วยให้ภาพมีความละเอียดและสมจริงมากขึ้นบนกล้อง