แสงสีเปลี่ยนความรู้สึกได้อย่างไร?

สีของแสงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อจิตใจผู้ชม เช่นเดียวกับการดูหนังหรือฟังเพลง

  • แสง แดง ให้ความรู้สึกเร้าใจ หวาดกลัว หรือโรแมนติก ขึ้นอยู่กับบริบท
  • แสง น้ำเงิน สื่อถึงความสงบ เหงา หรือเย็นชา
  • แสง เขียว ใช้แสดงธรรมชาติ ความลึกลับ หรือแม้แต่ความไม่แน่นอน
  • แสง ม่วง ให้กลิ่นอายของแฟนตาซี หรืออารมณ์เหนือธรรมชาติ
  • แสง เหลืองและส้ม ใช้แทนอุ่นสบาย ความสุข หรือความทรงจำ
    การเปลี่ยนเพียง “สีไฟ” ก็เหมือนเปลี่ยนโลกทั้งใบของฉากหนึ่ง ๆ ได้ทันที

แสงสีจึงเป็น “ภาษาลับ” ของเวทีที่สื่อสารโดยไม่ต้องพูดคำเดียว

ไฟเวทีมีกี่ประเภท? รู้จักไฟพื้นฐานที่ใช้กันทั่วไป

ไฟเวทีมีกี่ประเภท? รู้จักไฟพื้นฐานที่ใช้กันทั่วไป

ไฟเวทีแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งาน เช่น

  • PAR Light: ให้แสงพุ่งแรง มักใช้ส่องเฉพาะจุดหรือสร้างบรรยากาศ
  • Fresnel Light: ให้แสงนุ่มกระจาย ใช้สำหรับแสงหลักบนเวที
  • Ellipsoidal (Profile): ควบคุมขอบแสงได้ดี เหมาะกับการเน้นเฉพาะจุด
  • Moving Head: ไฟเคลื่อนที่ได้ เปลี่ยนสี/ทิศทางตามโปรแกรม
  • LED Wash: ให้แสงหลากสี กระจายกว้าง เหมาะสำหรับเติมสีพื้นหลัง
    รู้จักประเภทของไฟจะช่วยวางแผนแสงเวทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บนเวที ไม่ใช่แค่เปิดไฟแล้วจบ เพราะไฟแต่ละประเภทมีหน้าที่เฉพาะ การเข้าใจชนิดของไฟคือก้าวแรกของการจัดแสงที่ดี

ไฟพาร์ PAR Light (Parabolic Aluminized Reflector)

เป็นไฟเวทีแบบเบสิกที่ใช้ได้แทบทุกงาน ให้แสงแรงแต่ไม่มีการโฟกัส เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับให้แสงพื้นหลังหรือเติมสี

 ไฟฟรีสเนล Fresnel Light

จุดเด่นคือเลนส์โค้ง ให้แสงนุ่มฟุ้ง ช่วยลดเงาแข็ง เหมาะสำหรับแสงหลักที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ

EllipsoidalหรือProfile Spotlight

มีความสามารถในการโฟกัสแสงให้ชัดเจน ตัดขอบแสงได้ และมักใช้กับ Gobo (แผ่นลวดลาย) เพื่อฉายโลโก้หรือรูปทรงต่าง ๆ บนฉาก

ไฟมูฟวิ่งเฮด Moving Head Light

ตัวท็อปที่หมุนได้ทุกทิศ ใช้ในงานโชว์ใหญ่ ๆ ปรับสี ลาย และทิศทางได้ผ่านคอนโซล

LED Wash

เป็นตัวกระจายแสงพื้นเวที เติมสีให้ทั่วถึงแบบนุ่มนวล

ยิ่งเรารู้จักหรือเข้าใจอุปกรณ์มากแค่ไหน งานที่ออกมาก็ดูดีได้มากขึ้นเท่านั้น

เพียงแค่เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับงานนั้น ๆ คุณก็จะดูเป็นมืออาชีพขึ้นมาทันที !!